2 ธ.ค. 2557
พอมองจากภาพแล้วหลายคนคงอดสงสัยไม่ได้ว่า “ทำไมเจ้ากาแฟชนิดนี้เป็นสีครามแบบนี้”ก่อนที่จะอธิบายอะไรให้มากกว่านี้ เรามาเริ่มลองทำ “กาแฟสีคราม” กันเลยดีกว่า!!!
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ ก็มีแค่นี้เอง
1. Niboshi (煮干し) 5-6 ตัว : (ปลาตัวเล็กที่ต้มแล้วนำไปตากแห้ง นิยมนำมาต้มซุป)
2. กะหล่ำม่วง (ムラサキキャベツ) 1/4 ลูก
3. นม (牛乳) 600 cc
4. เบคกิ้งโซดา (重曹) เล็กน้อย
1. นำ Niboshi แช่น้ำ 350 cc แล้ววางทิ้งไว้ 1 คืน
2. วันถัดไปให้ตัก Niboshi ออก แล้วใส่กะหล่ำม่วงซอยลงไปแทน
3. ใช้ไฟแรงต้มให้เดือดแล้ว ต้มต่อด้วยไฟอ่อนๆอีก 15 นาที
4. กรองเอากากออก
1. นำไปใส่กับนมอุ่นๆ ในสัดส่วน 3:1
2. ย้ายไปใส่ไว้ในแก้วสีขาว และเติมเบคกิ้งโซดาเล็กน้อยเพื่อให้สีอ่อนลง
3. [ในกรณีที่ทำกาแฟเย็น] ให้นำไปแช่เย็นและมาผสมกับนมเย็นสัดส่วน 3:1 เช่นกัน
4. ค่อยๆใส่เบคกิ้งโซดาเพื่อปรับสี
2. ย้ายไปใส่ไว้ในแก้วสีขาว และเติมเบคกิ้งโซดาเล็กน้อยเพื่อให้สีอ่อนลง
3. [ในกรณีที่ทำกาแฟเย็น] ให้นำไปแช่เย็นและมาผสมกับนมเย็นสัดส่วน 3:1 เช่นกัน
4. ค่อยๆใส่เบคกิ้งโซดาเพื่อปรับสี
หลังจากทำเสร็จแล้วหลายคนคงจะแย้งว่า “มันไม่ใช่กาแฟนิ”!!!!!
ใช่แล้ว มันไม่ใช่กาแฟจริงๆ มันถูกเรียกว่ากาแฟเพราะการเล่นคำจากโค้ดสีของคอมพิวเตอร์!!!
ใช่แล้ว มันไม่ใช่กาแฟจริงๆ มันถูกเรียกว่ากาแฟเพราะการเล่นคำจากโค้ดสีของคอมพิวเตอร์!!!
อธิบายง่ายๆก็คือ สีที่ปรากฎบนเวบไซต์ต่างๆนั้นจะมีโค้ดเป็นตัวกำกับตั้งแต่ 000000～ffffff เช่น #000000 เป็นสีดำ, #ffffff เป็นสีขาว, #ffff00 เป็นสีเหลือง (ดูชาร์จโค้ดสีได้จากลิงค์ข้างล่าง)
http://www.colordic.org/
แล้วเมื่อนำคำว่า coffee มาเขียนเป็นโค้ดสีแล้ว จะออกมาเป็นสีครามนั่นเอง แต่จะต้องเปลี่ยนจาก o เป็นเลข 0 ก่อน เพราะในโค้ดนั้นไม่มีตัว o จึงมีหน้าตาออกมาคือ #c0ffee ส่วนรสชาติจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะปรุงออกมาในรูปแบบไหน!!
http://www.colordic.org/
แล้วเมื่อนำคำว่า coffee มาเขียนเป็นโค้ดสีแล้ว จะออกมาเป็นสีครามนั่นเอง แต่จะต้องเปลี่ยนจาก o เป็นเลข 0 ก่อน เพราะในโค้ดนั้นไม่มีตัว o จึงมีหน้าตาออกมาคือ #c0ffee ส่วนรสชาติจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะปรุงออกมาในรูปแบบไหน!!
http://anngle.org/th/j-lifestyle/jidea/c0ffee-recipe.html
